กลยุทธ์การจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจใดๆ ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มผลกำไรสูงสุด ในบทความนี้ เราจะอธิบายขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นในการสร้างกลยุทธ์ดังกล่าว และเราจะสำรวจว่าการบูรณาการองค์กรการจัดซื้อส่วนกลางสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับกระบวนการนี้ได้อย่างไร

การวิเคราะห์ความต้องการทางธุรกิจ

การกำหนดว่าธุรกิจของคุณต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ปริมาณเท่าใด และบ่อยเพียงใดถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ การประเมินข้อจำกัดด้านงบประมาณและกรอบเวลาที่ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการยังถือเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย ขั้นตอนนี้อาจเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์การซื้อในอดีต การประเมินการคาดการณ์ยอดขาย และการปรึกษาหารือกับแผนกต่างๆ ภายในบริษัทของคุณ

การประเมินซัพพลายเออร์

การระบุและประเมินซัพพลายเออร์ที่มีศักยภาพถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ไม่ใช่แค่การหาราคาที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการของซัพพลายเออร์ ความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของคุณ และเงื่อนไขการชำระเงิน การประเมินนี้อาจต้องมีการค้นคว้าอย่างละเอียด การขอใบเสนอราคา หรือแม้แต่การเยี่ยมชมสถานที่จริงของซัพพลายเออร์รายสำคัญ

การเจรจาสัญญา

การเจรจาสัญญากับซัพพลายเออร์ที่คุณเลือกถือเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ ขั้นตอนนี้ควรครอบคลุมไม่เพียงแค่ราคาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่น เวลาจัดส่ง การรับประกัน เงื่อนไขการชำระเงิน และเงื่อนไขในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเกิดความล่าช้า การเจรจาที่ดีต้องเตรียมการอย่างรอบคอบ เข้าใจความต้องการและข้อจำกัดของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างดี และมีความสามารถในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน

เมื่อมีสัญญาแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ของคุณเป็นประจำ ซึ่งอาจรวมถึงตัวบ่งชี้ เช่น การส่งมอบตรงเวลา การปฏิบัติตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์หรือบริการ และการตอบสนองต่อบริการลูกค้า การประเมินเป็นประจำนี้จะช่วยให้คุณระบุปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและดำเนินการแก้ไข นอกจากนี้ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับการเจรจาสัญญาในอนาคตได้อีกด้วย

บทบาทของศูนย์จัดซื้อ

การรวมความต้องการจัดซื้อของบริษัทต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้ หน่วยงานจัดซื้อกลาง สามารถเจรจาเงื่อนไขการจัดซื้อที่มีข้อได้เปรียบสูงได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการรวมคำสั่งซื้อเข้าด้วยกัน ช่วยประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาด นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเข้าถึงซัพพลายเออร์ได้หลากหลายขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเลือก นอกจากนี้ หน่วยงานจัดซื้อกลางยังสามารถให้ความช่วยเหลืออันมีค่าในขั้นตอนอื่นๆ ของกลยุทธ์การจัดซื้อของคุณ เช่น การประเมินซัพพลายเออร์หรือการเจรจาสัญญา

Recommend
Share
Tagged in
Leave a reply

MENU